|
ความเข้าใจผิด 90 ปี โดย...อ. ไมตรี ทรัพย์เอนกสันติ เมื่อ 55 ปีมาแล้ว สมัยผมยังแค่ 14-15 ปี ผมจะชอบและชื่นชม ลำโพงบ้านขนาดใหญ่โตที่มักให้ปุ่มหมุนปรับความดังของเสียงกลาง ของเสียงแหลม มาให้ด้วย. บางคู่ ปรับ 3 ปุ่ม มีเสียงทุ้มด้วย ( แต่น้อยกว่า พวกปรับได้แค่ กลาง แหลม. แต่ที่ปรับได้แต่แหลม มีน้อยมาก ) กลายเป็นว่า ลำโพงที่มีราคาแพงมาก เกือบทั้งหมด จะต้องมีปุ่มหมุนปรับเสียงกลาง. ปรับเสียงแหลม ได้ด้วย จากแต่ดั้งเดิม ปรับได้แต่แหลม โดยชุดแหลม จะมีขั้วเสียบ (ขันน๊อต) มาให้เลือกใช้ 2 ชุด ดังปกติ กับค่อยลง ( ตายตัว ปรับน้อยหรือมาก ไม่ได้ ) ผมได้ลองฟังและปรับเสียง ลำโพงพวกนี้มานับไม่ถ้วน ตลอด 50 ปีของการเล่นเครื่องเสียง. เรียนตรงๆ ว่า ปรับแล้วมีผลจริง แต่หาที่ถูกใจไม่มีเลย ! ปรับแหลม ได้ ถ้าไม่เจี้ยวจ้าว ก็ ทึบ แห้ง ปรับกลาง. ได้แต่เสียงอู้ ก้อง ขึ้นจมูก. หรือถอย จม ปรับทุ้ม ได้แต่ กลางต่ำที่อื้ออึง ไม่มีคำว่า ลงลึก อิ่มแน่น. ไม่ใช้ดีกว่าใช้ ขนาด คู่ละ 4 ล้านบาท ( ราคาเมื่อ40 ปีที่แล้ว ) ไปฟังที่ฮ่องกง ปรับได้ 7 ปุ่ม 7 ช่วงความถี่ ร้านเขาปรับไว้แล้ว เขาคงไม่ให้เราแตะ ต้องแน่ เสียงออกมา ราบเรียบ จืดและแห้ง สนิท. ไร้ทรวดทรง เวทีด้านลึก พูดง่ายๆ ไร้อารมณ์สิ้นดี ให้ฟรียังเคือง ! สังเกตุว่า ถ้ามีปุ่มปรับเสียงทุ้มมาด้วย ลำโพงนั้นจะกินวัตต์มากๆ ต้องหาแอมป์กำลังขับสูงมากมาขับเสมอ. เพราะการปรับ ทั้งหมด เป็นการลดระดับลง จริงๆแล้ว ที่ระดับ + สูงสุด ของแต่ละปุ่ม คือตำแหน่งการปล่อยกระแสผ่านหมดเต็มที่ไปยังดอกลำโพง เมื่อไรที่เราปรับลดระดับลง คือ ลดการไหลของกระแสจากปกติลง เพราะวงจรปรับเสียงเป็นแบบไม่มีภาคขยายเสียงใดๆ ( PASSIVE) มีแต่ ดังปกติที่ควรจะเป็น กับ ดังค่อยลง ไม่มี ดังขี้น ได้ ข้อเสียของการมีปุ่มปรับเสียงได้ 1:ลำโพงคู่นั้นมักกินวัตต์ สำคัญมาก เกินคาด! คำตอบ หรือเหตุผล ของความแย่ลงทั้งหมดนี้ ก็คือว่า มันเป็นไปไม่ได้ ที่จะออกแบบระบบลำโพง ให้มีการปรับเปลี่ยนค่าตัวแปรใดๆได้ ไม่ว่าเรื่องตู้ ดอกลำโพง วงจรแบ่งความถี่เสียง แล้ว. " สุ้มเสียงทุกอย่าง และ มิติเสียง " จะยัง. ลงตัว เข้ากันได้พอดี เป็นเนื้อเดียวกันเหมือนเดิมได้ www.maitreeav.com |